อัยการเตือนเผยเเพร่ภาพ เด็ก ม.6 จี้ชิงทอง โทษหนัก ผิดกฎหมายอาญา

อัยการเตือนเผยเเพร่ภาพ เด็ก ม.6 จี้ชิงทอง โทษหนัก ผิดกฎหมายอาญา

อัยการเตือนเผยเเพร่ภาพ เยาวชนหญิง 17 ปี ที่ก่อเหตุจี้ร้านทอง เข้าข่ายผิดกฎหมายอาญา โทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท วันที่ 14 ก.ย.64 นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 9 โพสต์เฟซบุ๊กให้ความเห็นเกี่ยวกับข้อกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 กรณีมีการเผยเเพร่ภาพเยาวชนหญิงวัย 17 นักเรียนชั้น ม.6 ย่านดอนเมือง ถูกจับกุม ขณะใช้มีดก่อเหตุจี้ชิงทองรูปพรรณ ภายในร้านทองเยาวราชกรุงเทพ สาขารัตนาธิเบศร์ 2 ภายในห้างบิ๊กซี ซึ่งอยู่บริเวณชั้น 1 สาขารัตนาธิเบศร์ อ.เมือง จ.นนทบุรี

โดยระบุว่า เผยแพร่..ภาพเด็กชิงทองในห้าง โทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท อย่าทำ..!!

ภาพเด็กชิงทอง เป็นนักเรียนอยู่ชั้น ม.6 อายุ 17 ปี ถูกเผยแพร่เป็นข่าว หรือตามห้อง LINE ผมเห็นไปทั่ว โปรดศึกษากฎหมายกันให้รอบรู้ด้วยครับ เป็นความผิดตามกฏหมาย ฝากสื่อมวลชนและผู้ที่ชอบส่งข่าวตามโซเชียล ระมัดระวังกันให้มากจะถูกแจ้งความดำเนินคดี หน่วยงานที่ มีหน้าที่คุ้มครองเด็กช่วยกันออกมาตักเตือนสังคมด้วย

โดยมาตรา 130 ห้ามมิให้ผู้ใดบันทึกภาพ แพร่ภาพ พิมพ์รูป หรือบันทึกเสียง แพร่เสียงของ เด็กหรือเยาวชนซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดหรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง หรือโฆษณาข้อความซึ่งปรากฏ ในทางสอบสวนของพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ หรือในทางพิจารณาคดีของศาลที่อาจทำให้ บุคคลอื่นรู้จักตัว ชื่อตัว หรือชื่อสกุล ของเด็กหรือเยาวชนนั้น หรือโฆษณาข้อความเปิดเผยประวัติ การกระทำความผิด หรือสถานที่อยู่ สถานที่ทำงาน หรือสถานศึกษาของเด็กหรือเยาวชนนั้น

ความในวรรคหนึ่ง มิให้ใช้บังคับแก่การกระทำเพื่อประโยชน์ทางการศึกษาโดยได้รับอนุญาตจากศาล หรือ การกระทำที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ของทางราชการ

มาตรา 192 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 130 มาตรา 136 หรือมาตรา 153 ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 27 ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาหรือเผยแพร่ทางสื่อมวลชน หรือสื่อ สารสนเทศประเภทใด ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับตัวเด็กหรือผู้ปกครอง โดยเจตนาที่จะทําให้เกิดความเสียหายแก่จิตใจ ชื่อเสียง เกียรติคุณ หรือ สิทธิประโยชน์อื่นใดของเด็กหรือเพื่อแสวงหาประโยชน์สําหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ

มาตรา 79 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 27 มาตรา 50 หรือ มาตรา 61 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือ ทั้งจําทั้งปรับ อ่านแล้วทำความเข้าใจกฎหมายกันด้วยครับ เด็ก คือเด็ก มีกฎหมายคุ้มครองเด็ก และวิธีการสำหรับเด็กที่กระทำความผิด เพื่อให้เด็กมีโอกาสกลับตัวเป็นพลเมืองดี เด็กไม่ใช่ผู้ใหญ่ ไม่ใช่การใช้กฎหมายอาญาตามปกตินะครับ..!!

เจ้าหน้าที่เรือนจำเรียกรับเงิน อดีตผู้ต้องขังแฉ สูญเงินไปแล้วกว่า 2 ล้านบาท

อดีตผู้ต้องขัง หอบหลักฐานแฉ เจ้าหน้าที่เรือนจำเรียกรับเงิน อ้างเลื่อนชั้นนักโทษได้ ช่วยให้พ้นโทษเร็วขึ้น ที่ผ่านมาสูญเงินไปแล้วกว่า 2 ล้านบาท วันที่ 13 กย.64 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วย นายจำรัส อดีตผู้ต้องขังคดีฆ่าคนตาย ซึ่งเคยถูกควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำแห่งหนึ่ง ตั้งแต่ปี 2551 จนถึงเดือนเมษายน 2564 ได้นำหลักฐานการโอนเงินและข้อความแชทสนทนาพูดคุยต่อรองเรียกรับผลประโยชน์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบหรือ บก.ปปป.

โดย นายจำรัส อ้างว่า ในช่วงระหว่างที่ถูกควบคุมตัวไว้ภายในเรือนจำดังกล่าว ตนเองได้จ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์รายหนึ่ง หลายครั้ง รวมมูลค่ามากกว่า 2 ล้านบาท  มีทั้งที่จ่ายเป็นเงินสดและการโอนเงินจากญาติมาให้อีก 5 ครั้ง หากไม่ยอมจ่ายก็จะถูกลดชั้น หากจ่ายให้ตามที่ต้องการก็จะได้รับการเลื่อนชั้นหรืออภัยโทษ

นายจำรัส บอกอีกว่ามีผู้ต้องขังที่จ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นายดังกล่าวหลายราย บางคนที่ยอมจ่ายก็จะได้รับการพ้นโทษเร็วกว่า โดย นายจำรัส มีโทษจำคุก 23 ปี 4 เดือน แต่จำคุกจริงเพียงแค่ 5 ปี แต่ผู้ต้องขังรายอื่นที่จ่ายเงินให้กลับพ้นโทษได้เร็วกว่าตัวเองทั้งที่โทษจำคุกมากกว่า

ทั้งนี้ ในระหว่างที่ตัวเองต้องโทษอยู่ภายในเรือนจำได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังผู้บัญชาการเรือนจำดังกล่าวให้ตรวจสอบแล้วแต่เรื่องก็เงียบหายไป จนกระทั่งได้ทำเรื่องไปถึงปลัดกระทรวงยุติธรรมซึ่งทางกระทรวงได้รับเรื่องแล้วแต่เรื่องก็เงียบหายไปอีก ทั้งที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นายดังกล่าวก็รับสารภาพในขั้นตอนการสอบสวน จึงเข้าร้องเรียนกับนายอัจฉริยะและเข้าแจ้งความกับให้ช่วยตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพราะคิดว่ากระบวนการที่เกิดขึ้นไม่ได้มีเพียงแค่คนเดียวและอาจมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงในระดับเรือนจำและกระทรวงเกี่ยวข้องอีกเป็นจำนวนมาก

กล้องวงจรปิดในห้างแห่งหนึ่ง เผย ภาพ พลเมืองดี ช่วยสกัดการหลาบหนีของ นักเรียนหญิง ม.6 ปล้นร้านทอง จนสุดท้ายตำรวจตามจับกุมได้ทันควัน จากรณีเด็ก นักเรียนหญิง ชั้น ม.6 โรงเรียนย่านดอนเมือง กรุงเทพฯ อายุเพียง 17 ปี ก่อเหตุ ปล้นร้านทอง เมื่อวันที่ 12 ก.ย.64 ในห้างค้าปลีก บนถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี ก่อนที่สุดท้ายจะถูกตำรวจตามรวบตัวได้ทันควัน

ล่าสุดมีการเปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะที่ พลเมืองดี ช่วยสกัดจับคนร้าย โดยเป็นตอนที่นักเรียนสาวจี้ทองเสร็จแล้วและกำลังหลบหนี พลเมืองดีคนดังกล่าวได้ใช้ขาสกัดจนค้นร้ายล้มลง ซึ่งภายหลังได้เปิดเผยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า ตัวเองกำลังซื้อผลไม้ในในศูนย์อาหาร พอเห็นคนร้ายวิ่งมาก็เอาเท้าขัดขาล้ม จากนั้นจึงช่วยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวไว้ได้

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป